คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
FACULTY OF ENGINEERING AND AGRO-INDUSTRY, MAEJO UNIVERSITY

หลังจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดเทอมมหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียนมาได้หนึ่งปีการศึกษา แล้วนั้น ทั้งอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงต่างออก มายืนยันถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างกว้างขวางและในที่สุดที่ประชุมประธานสภา อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ปอมท.)จึงได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นวาระ พิจารณาในคราวประชุม ปอมท.ครั้งที่ 5/2558 ที่จัดประชุมขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งผลการพิจารณาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกการเปิด-ปิดมหาวิทยาลัยตามอาเซียน โดยให้ประธาน ปอมท.ทำหนังสือเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาทบทวนความ เหมาะสม ด้วยเหตุผลด้านผลเสียที่เกิดขึ้นหลายประการ ดังนี้

ประการแรก เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากในช่วงเทอมที่ 2 จะคาบเกี่ยวกับช่วงฤดูร้อนเต็มๆ (ทั้งเดือนมีนาคม เดือนเมษายน และการสอบปลายภาคช่วงต้นเดือนพฤษภาคม) โดยเฉพาะเดือนมีนาคมและเมษายนอันเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี สภาพอากาศร้อนย่อมมีผลทำให้การเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพ และเดือนเมษายนยังมีวันหยุดมาก (รวมไม่น้อยกว่า 5-8 วัน) ทั้งเทศกาลสงกรานต์ วันจักรี และวันเกณฑ์ทหาร ทำให้การเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากขาดความต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมและการเรียนการสอนภาคปฏิบัตินอกห้องเรียนแทบจะกระทำไม่ได้เลยในช่วงเทอมนี้

ประการที่2เป็น อุปสรรคต่อการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเนื่องจากเดือนเมษายนนั้นอาจถือได้ว่า เป็นเดือนแห่งประเพณีและวัฒนธรรมไทย เพราะเดือนนี้มีวันสำคัญด้านประเพณีและวัฒนธรรมมากที่สุดในรอบปี ทั้งวันปีใหม่ไทย วันผู้สูงอายุ และวันครอบครัว รวมไปถึงวันเช็งเม้งของคนไทยเชื้อสายจีน การเรียนการสอนในช่วงนี้ทำให้ทั้งอาจารย์และนักศึกษาไม่อาจเข้าร่วมกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญดังกล่าวได้ไม่ว่าจะเป็นการใส่บาตรทำบุญการฟัง เทศน์ฟังธรรมการสรงน้ำพระ การขนทรายเข้าวัด การรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และการร่วมกิจกรรมอื่นๆ ในครอบครัว ที่สภาพเศรษฐกิจและสังคมมีผลทำให้สมาชิกในครอบครัวหาเวลาอยู่ด้วยกันอย่าง พร้อมหน้าพร้อมตาแทบจะไม่มีแล้วในยุคปัจจุบัน

ประการที่3เป็น อุปสรรคต่อการหางานของบัณฑิตเนื่องจากนักศึกษาจะจบไม่ทันช่วงฤดูรับสมัครงาน โดยเฉพาะงานราชการที่มักเปิดรับสมัครในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมซึ่งนัก ศึกษายังไม่จบการศึกษาเหมือนก่อนหน้านี้นอกจากนี้กำหนดการเกณฑ์ทหารในรอบปี ก็อยู่ในช่วงเทอมที่สองนี้หากนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายขอผ่อนผันต่อโดยไม่ไป เข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ทหาร นักศึกษาก็จะมีปัญหาที่อาจไม่สามารถสมัครงานได้เมื่อจบการศึกษาตอนปลายเดือน พฤษภาคม เนื่องจากไม่มีใบรับรองการผ่านการเกณฑ์ทหาร (สด.9) แต่ถ้านักศึกษาเสี่ยงไปเข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ทหารในเทอมที่สองนี้ หากได้รับการคัดเลือกก็จะยิ่งมีปัญหามากขึ้นไปอีกเพราะยังเรียนไม่จบ นั่นคือจะต้องลาพักการศึกษาเป็นปี ปัญหาบัณฑิตตกงานจึงมีโอกาสสูงขึ้นมากด้วยสาเหตุเหล่านี้


ประการที่ 4 เป็นอุปสรรคต่อเอกภาพทางการศึกษาของชาติ ทำให้เกิดปัญหาความไม่ต่อเนื่องระหว่างอุดมศึกษากับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้เปลี่ยนการเรียนการสอนในระดับประถมและมัธยมตามอาเซียนอย่างมหาวิทยาลัย จึงเกิดความลักลั่นระหว่างมหาวิทยาลัยและมัธยม โดยเฉพาะการเรียนการสอนในคณะศึกษาศาสตร์ที่มีความยุ่งยากในการสาธิตและฝึกสอน เพราะช่วงเวลาไม่สอดคล้องกับการเรียนในขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้นักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องเสียเวลาในการรอเรียนชั้นปีที่ 1 ในระดับมหาวิทยาลัยนานหลายเดือน ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นผลดีแต่อย่างใดแล้ว ซ้ำยังเป็นความเสี่ยงต่อความหลงระเริงในการเที่ยวเตร่ในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย 

ประการที่ 5 เป็นอุปสรรคต่อการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องปรับอากาศสำหรับห้องเรียน และการที่นักศึกษายังคงต้องอยู่รวมกันมากๆ ในเมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นั้น ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปามากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ควรจะต้องพยามยามลดการใช้ไฟฟ้าลง เพราะการผลิตไฟฟ้าอาจไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากปกติช่วงฤดูนี้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในรอบปีอยู่แล้ว และควรต้องลดการใช้น้ำประปาลงด้วย เพราะเป็นช่วงฤดูแล้งที่มักขาดแคลนน้ำดิบสำหรับการผลิตน้ำประปาเช่นเดียวกันด้วย 

ประการที่ 6 เกิดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตของอาจารย์และนักศึกษา รวมไปถึงผู้ปกครอง เนื่องจากต้องฝืนทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะการเรียนการสอนในสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับธรรมชาติ ทั้งการเจ็บไข้จากสภาพอากาศร้อนจัดและการสะสมความเครียดในภาวะต่างๆ เช่น การตากแดด การเดินทาง การปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติและกิจกรรมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและระดับประถมหรือมัธยมศึกษา เป็นต้น 

ประการที่ 7 เกิดปัญหาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างอาจารย์ไทยกับต่างประเทศ เนื่องจากต่างมีภาระการสอนตรงกัน (เปิดและปิดเทอมตรงกันหมด) การที่อาจารย์ไทยจะไปดูการเรียนการสอนเพื่อหาประสบการณ์ตรงในต่างประเทศย่อมทำได้ยาก เพราะจะมีผลกระทบกับการเรียนการสอนในความรับผิดชอบของตนเอง แม้กรณีนี้จะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่ความสำคัญนั้นอยู่ตรงที่เป็นความเห็นต่างที่ตรงกันข้ามกับที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ทปอ.) โดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีปัญหาปลีกย่อยของแต่ละหลักสูตรในแต่ละคณะของแต่ละมหาวิทยาลัยอีกมากมาย ที่มีปัญหาเฉพาะตนด้วยมีบริบทที่แตกต่างกัน ทั้งด้านภูมิประเทศ ด้านภูมิอากาศ และด้านสังคม ที่อาจนำมากล่าวอ้างเพื่อสนับสนุนมติของ ปอมท.ได้ แต่อย่างไรก็ดี ลำพังเหตุผลข้อที่ 1-3 ซึ่งเป็นผลเสียต่อภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจนนั้น ก็น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการ สกอ.เห็นชอบกับมติของ ปอมท.ได้แล้ว 

ถึงตรงนี้ จึงขอได้โปรดคืนความสุขให้กับอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยไทยด้วยเถอะ

ที่มา: : ภาพและข้อความจาก มติชนออนไลน์ : http://www.matichon.co.th

ปรับปรุงข้อมูล : 6/8/2558 14:40:41     ที่มา : คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 913

กลุ่มข่าวสาร : บทความน่าสนใจ

ข่าวล่าสุด

คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร จัดโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรได้จัดโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568 ในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มทักษะในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพโครงการได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.หยาดฝน ทนงการณ์กิจ รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และประกันคุณภาพ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบของที่ระลึกจากกิจกรรมสุ่มจับรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมอบรมกิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้อง E117 อาคารเรียนรวมสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เวลา 13.00 – 16.30 น. โดยมี คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ร่วมด้วยบุคลากรจากคณะพยาบาลศาสตร์ รวมถึงแม่บ้านและผู้ประกอบการร้านค้าที่ปฏิบัติงานและให้บริการภายในคณะ เข้าร่วมอย่างเหมาะสมและเพียงพอสำหรับการฝึกปฏิบัติวิทยากรจาก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองแม่โจ้ ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย ขั้นตอนการอพยพหนีไฟ และฝึกซ้อมปฏิบัติเสมือนเหตุการณ์จริง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ หมวด 5 สภาพแวดล้อมและความปลอดภัย ตามเกณฑ์สำนักงานสีเขียว (Green Office) ที่มุ่งเสริมสร้างความตระหนักรู้และความพร้อมด้านความปลอดภัยให้กับทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานภายในคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร
29 พฤศจิกายน 2568     |      69
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวาระสำคัญครบ ๑๐๐ ปี
เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2568 คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตครบ ๑๐๐ ปี และถวายพระกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ ๑๐๐ ปี ณ อาคารแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในการนี้ นางวิภาวรรณ ผาภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณบดีคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร และ นางสุนทรี หาญพรหม ได้เป็นผู้แทนคณะฯ เข้าร่วมประกอบพิธี โดยมีผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษา และประชาชนทั่วไปจากหน่วยงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและน้อมรำลึกถึงพระราชจริยวัตรอันทรงคุณค่าพิธีในครั้งนี้จัดโดย กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงาม และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์Cr: ภาพถ่ายจาก กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ?มหาวิทยาลัยแม่โจ้
29 พฤศจิกายน 2568     |      53
ร่วมกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน (Dean Forum) สัญจร ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติ
วันที่ 21–22 พฤศจิกายน 2568 คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา นาคประสม คณบดี ได้เข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน (Dean Forum) สัญจร ประจำปี 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติการเดินทางครั้งนี้เปิดโอกาสให้ส่วนงานต่าง ๆ ได้ แลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการองค์กร พร้อมทั้งรับฟังภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์เกษตรอินทรีย์ ณ อาคารศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นพื้นที่บูรณาการการเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวพระราชดำริอย่างครบวงจรภายในกิจกรรม คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้เยี่ยมชม โรงเรือนนวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อการผลิตเห็ดอินทรีย์ โรงเรือนสุกรขุนอัจฉริยะ โรงเรือนโคนมอัจฉริยะซึ่งล้วนเป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบ Smart Farming เพื่อรองรับการเรียนการสอน การวิจัย และการพัฒนาบุคลากรในสายวิศวกรรมและเกษตรสมัยใหม่นอกจากนี้ยังมีการประชุมหารือในกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้บริหารทุกคณะ สะท้อนความต้องการ แลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมออกแบบแนวทางขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย ให้ตอบโจทย์ภารกิจมหาวิทยาลัยในยุคดิจิทัลคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรขอขอบคุณคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง และยินดีที่จะร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาเกษตรอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ข่าวหลักจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ได้ที่:https://www.facebook.com/share/14QD6LBSNa1/?mibextid=WC7FNe
29 พฤศจิกายน 2568     |      60
กิจกรรม สัมมนาวิชาการด้านเครื่องทำความเย็น
BITZER Refrigeration Asia Pte.,Ltd. ร่วมกับคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรจัดกิจกรรม สัมมนาวิชาการด้านเครื่องทำความเย็น (Refrigeration Seminar) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ (Upskill) ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบทำความเย็นเพื่อการประหยัดพลังงาน ให้กับนักศึกษา คณาจารย์ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในการนี้ คณะได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทิพาพร คำแดง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจกรรมพิเศษ ประธานในพิธีเปิดและผู้รับมอบทุนการศึกษาในนามของคณะ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและเปิดกิจกรรม พร้อมร่วมรับมอบทุนการศึกษาจากบริษัท BITZER Refrigeration Asia Pte., Ltd.โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ คณะได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท BITZER Refrigeration Asia Pte., Ltd. ในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษา จำนวน 30,000 บาท เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านระบบความเย็นคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ขอขอบคุณ ศิษย์เก่าของคณะ ที่มีบทบาทสำคัญในการประสานงานและผลักดันการจัดสัมมนาครั้งนี้ อันเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครื่องทำความเย็นเพื่อการประหยัดพลังงานให้แก่คณาจารย์และนักศึกษาของคณะอย่างต่อเนื่อง
29 พฤศจิกายน 2568     |      54