คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
FACULTY OF ENGINEERING AND AGRO-INDUSTRY, MAEJO UNIVERSITY

ทีมงานวิจัย จากคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผศ.จักรพงษ์ พิมพ์พิมล พร้อมทีมวิจัย ได้ดำเนินการวิจัยเรื่อง ปัญหาปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยพร้อมกับออกแบบห้องรม SO2 ทั้งจากการเผาผงกำมะถัน และจาก ถังอัดความดันโดยตรงกับผลลำไยสดด้วยระบบหมุนเวียนอากาศแบบบังคับแนวตั้ง

 

ห้องรม SO2 ระบบหมุนเวียน

เมื่อเทียบกับระดับ ความเข้มข้นของ ซัลเฟอร์ได-ออกไซด์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ป้องกันการเกิดโรคและการเกิดสีน้ำตาลที่เปลือกผลลำไยได้ ไม่ต่ำกว่า 20 วัน รวมทั้งสารตกค้าง

ลำไยสด...หลังการเก็บเกี่ยวจะต้องใช้เทคโนโลยีที่จำเป็น คือ การรมด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ซึ่งมีความสำคัญต่อผลผลิตในการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ

ปัจจุบันมักเกิดปัญหาปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในผลลำไยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทำให้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดเข้มงวดมากขึ้น

ผศ.จักรพงษ์ พิมพ์พิมล พร้อมกับทีมงานวิจัย จากคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการวิจัยเรื่อง...ปัญหาปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยพร้อมกับออกแบบห้องรม SO2 ทั้งจากการเผาผงกำมะถัน และจาก ถังอัดความดันโดยตรงกับผลลำไยสดด้วยระบบหมุนเวียนอากาศแบบบังคับแนวตั้ง

 

 

ผศ.จักรพงษ์ พิมพ์พิมล



ผศ.จักรพงษ์ บอกว่า การทำงานเริ่มจากการสุ่มเก็บตัวอย่างผลลำไยสด จากสถาน ประกอบการจำนวน 7 แห่ง ในเขต จังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน ผลปรากฏว่าระดับความเข้มข้นของ SO2 แตกต่างกัน จากนั้นนำมาคำนวณในเชิงเปรียบเทียบถึงปริมาณ แก๊ส SO2 จากถังอัดความดันโดยตรงที่ต้องปล่อยเข้าไปในห้องรม SO2 ที่ได้ออกแบบขึ้นมา ซึ่ง มีความจุ 22.5 ลูกบาศก์เมตร พบว่าในกรณีที่มีปริมาณผลลำไยเท่ากัน การใช้ ระบบหมุนเวียนอากาศแบบปกติต้องปล่อยแก๊สเข้าไปในห้องมากกว่าการ ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศแบบบังคับแนวตั้งประมาณร้อยละ 45 หมายความว่า ระบบหมุนเวียนอากาศแบบบังคับสามารถลดปริมาณแก๊ส SO2 ได้ประมาณครึ่งหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ ระบบหมุนเวียนอากาศแบบปกติ

 

"  ระบบหมุนเวียนอากาศแบบบังคับแนวตั้ง มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในกระบวนการรมผลลำไยสด สามารถลดระดับความเข้มข้นของ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ให้เหลือเพียง 4,000 ppm หรือประมาณ 4-5 เท่า เมื่อเทียบกับระดับ ความเข้มข้นของ SO2 ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ 15,000-20,000 ppm โดยยังคงป้องกันการเกิดโรคและการเกิดสีน้ำตาลที่เปลือกผลลำไยได้ ไม่ต่ำกว่า 20 วัน หลังจากเก็บรักษาที่ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส และ ความชื้นสัมพัทธ์ 95 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือช่วยให้ผลลำไยมีปริมาณ SO2 ตกค้าง ในเนื้อผลไม่เกิน 8 ppm ต่ำกว่าเกณฑ์สูงสุด ที่ ประเทศแคนาดา กำหนดไว้ 10 ppm และ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน กำหนดไว้ 50 ppm อีกทั้งไม่พบการตกค้างในเนื้อลำไยหลังจากเก็บรักษา 5 วัน" ผศ.จักรพงษ์ กล่าวและว่า

สิ่งที่เป็นข้อแตกต่างสรุปได้ คือ ผลลำไยที่ผ่านการรม SO2 จากถังอัดความดันโดยตรงมีความสดของผิวเปลือก ด้านในขาวและมองเห็นส่วนต่างๆของเซลล์ผิวได้ชัดเจนกว่า ผลลำไยจากสถานประกอบการ ซึ่งมีสีน้ำตาลและเซลล์ผิวค่อนข้างแห้ง สาเหตุเพราะกระบวนการรม SO2 ของสถานประกอบการเป็นการเผาผงกำมะถัน เพื่อให้ได้แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาต้องใช้ ความร้อนสูงถึง 250 องศาเซลเซียส จึงจะสามารถเผาไหม้ผงกำมะถันได้ ดังนั้น จึงทำให้ภายในห้องรมความร้อนเกิดขึ้น และ ส่งผลกระทบ ต่อคุณภาพของผลลำไย นั่นเอง

ผู้สนใจต้องการไปชมหรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ผศ.จักรพงษ์ 0-5387-8117, 08-1366-2993 โทรสาร: 0-5387-8122 E-mail: jakrapho@mju.ac.th ในวันและเวลาราชการ.

ไชยรัตน์ ส้มฉุน

 


โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน
10 พ.ค. 2553, 05:00 น.
ปรับปรุงข้อมูล : 6/2/2554 10:41:43     ที่มา : คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 3280

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร จัดโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรได้จัดโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568 ในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มทักษะในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพโครงการได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.หยาดฝน ทนงการณ์กิจ รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และประกันคุณภาพ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบของที่ระลึกจากกิจกรรมสุ่มจับรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมอบรมกิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้อง E117 อาคารเรียนรวมสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เวลา 13.00 – 16.30 น. โดยมี คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ร่วมด้วยบุคลากรจากคณะพยาบาลศาสตร์ รวมถึงแม่บ้านและผู้ประกอบการร้านค้าที่ปฏิบัติงานและให้บริการภายในคณะ เข้าร่วมอย่างเหมาะสมและเพียงพอสำหรับการฝึกปฏิบัติวิทยากรจาก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองแม่โจ้ ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย ขั้นตอนการอพยพหนีไฟ และฝึกซ้อมปฏิบัติเสมือนเหตุการณ์จริง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ หมวด 5 สภาพแวดล้อมและความปลอดภัย ตามเกณฑ์สำนักงานสีเขียว (Green Office) ที่มุ่งเสริมสร้างความตระหนักรู้และความพร้อมด้านความปลอดภัยให้กับทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานภายในคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร
29 พฤศจิกายน 2568     |      69
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวาระสำคัญครบ ๑๐๐ ปี
เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2568 คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตครบ ๑๐๐ ปี และถวายพระกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ ๑๐๐ ปี ณ อาคารแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในการนี้ นางวิภาวรรณ ผาภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณบดีคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร และ นางสุนทรี หาญพรหม ได้เป็นผู้แทนคณะฯ เข้าร่วมประกอบพิธี โดยมีผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษา และประชาชนทั่วไปจากหน่วยงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและน้อมรำลึกถึงพระราชจริยวัตรอันทรงคุณค่าพิธีในครั้งนี้จัดโดย กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงาม และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์Cr: ภาพถ่ายจาก กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ?มหาวิทยาลัยแม่โจ้
29 พฤศจิกายน 2568     |      53
ร่วมกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน (Dean Forum) สัญจร ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติ
วันที่ 21–22 พฤศจิกายน 2568 คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา นาคประสม คณบดี ได้เข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน (Dean Forum) สัญจร ประจำปี 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติการเดินทางครั้งนี้เปิดโอกาสให้ส่วนงานต่าง ๆ ได้ แลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการองค์กร พร้อมทั้งรับฟังภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์เกษตรอินทรีย์ ณ อาคารศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นพื้นที่บูรณาการการเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวพระราชดำริอย่างครบวงจรภายในกิจกรรม คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้เยี่ยมชม โรงเรือนนวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อการผลิตเห็ดอินทรีย์ โรงเรือนสุกรขุนอัจฉริยะ โรงเรือนโคนมอัจฉริยะซึ่งล้วนเป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบ Smart Farming เพื่อรองรับการเรียนการสอน การวิจัย และการพัฒนาบุคลากรในสายวิศวกรรมและเกษตรสมัยใหม่นอกจากนี้ยังมีการประชุมหารือในกิจกรรมสัมมนาหัวหน้าส่วนงาน ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้บริหารทุกคณะ สะท้อนความต้องการ แลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมออกแบบแนวทางขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย ให้ตอบโจทย์ภารกิจมหาวิทยาลัยในยุคดิจิทัลคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรขอขอบคุณคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้–แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง และยินดีที่จะร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาเกษตรอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ข่าวหลักจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ได้ที่:https://www.facebook.com/share/14QD6LBSNa1/?mibextid=WC7FNe
29 พฤศจิกายน 2568     |      61
กิจกรรม สัมมนาวิชาการด้านเครื่องทำความเย็น
BITZER Refrigeration Asia Pte.,Ltd. ร่วมกับคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรจัดกิจกรรม สัมมนาวิชาการด้านเครื่องทำความเย็น (Refrigeration Seminar) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ (Upskill) ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบทำความเย็นเพื่อการประหยัดพลังงาน ให้กับนักศึกษา คณาจารย์ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในการนี้ คณะได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทิพาพร คำแดง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจกรรมพิเศษ ประธานในพิธีเปิดและผู้รับมอบทุนการศึกษาในนามของคณะ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและเปิดกิจกรรม พร้อมร่วมรับมอบทุนการศึกษาจากบริษัท BITZER Refrigeration Asia Pte., Ltd.โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ คณะได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท BITZER Refrigeration Asia Pte., Ltd. ในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษา จำนวน 30,000 บาท เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านระบบความเย็นคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ขอขอบคุณ ศิษย์เก่าของคณะ ที่มีบทบาทสำคัญในการประสานงานและผลักดันการจัดสัมมนาครั้งนี้ อันเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครื่องทำความเย็นเพื่อการประหยัดพลังงานให้แก่คณาจารย์และนักศึกษาของคณะอย่างต่อเนื่อง
29 พฤศจิกายน 2568     |      54